ชีวิตของเราในแต่ละช่วงนั้น  มีโอกาสมากมายผ่านเข้ามาเสมอ  เช่น  โอกาสทางด้านการศึกษาหรือโอกาสในการทำงาน              ซึ่งส่วนหนึ่งนั้นก็ขึ้นอยู่กับตัวเราด้วยว่าเรามองเห็นโอกาสนั้นหรือไม่ หรือถ้าหากเราเห็นมันแล้ว เราได้พยายามที่จะคว้ามันไว้ให้ได้หรือเปล่า

ทำความรู้จักกันก่อน

        สวัสดีค่ะ ชื่อฝน นางสาวจิราพร  เบิดโบค่ะ ฝนเรียนจบจากคณะบริหารธุรกิจ สาขาบริหารธุรกิจญี่ปุ่น (BJ) แขนงภาษาญี่ปุ่นขั้นสูง ตอนนี้ทำงานเป็นล่าม อยู่ที่ Saraya MFG. (Thailand) Co., Ltd. เป็นบริษัทที่ผลิตน้ำยาต่างๆ เช่น น้ำยาล้างจาน น้ำยาล้างมือ หรือน้ำยาที่โรงแรมใหญ่ๆ ใช้ในการทำความสะอาดเครื่องครัว ซึ่งส่งออกญี่ปุ่นกว่า 90% เลยค่ะ

เพิ่งเรียนจบปีนี้ แต่ได้ทำงานกับบริษัทญี่ปุ่น แสดงว่าทักษะภาษาญี่ปุ่นต้องดีมากแน่ๆ

     

        ก็สามารถสื่อสารได้ในระดับดีค่ะ  ตอนนี้ฝนก็ได้ระดับ JLPT N2 ค่ะ พยายามสอบวัดระดับทุก ๆ ปี แต่จะค่อนข้างถนัดด้านการ     พูดคุยมากที่สุดค่ะ

เป็นลูกครึ่งหรือเคยไปเรียนที่ญี่ปุ่นมาก่อนหรือเปล่า ?

        เป็นลูกครึ่งไทย-จีนค่ะ คุณพ่อเป็นคนจีน คุณแม่เป็นคนไทย เคยเรียน ม.5 – ม.6 ที่ญี่ปุ่น เพราะว่าคุณแม่มาทำงานเย็บผ้าที่ญี่ปุ่นค่ะ เลยมีโอกาสที่ดีได้ไปเรียนที่นั่น ฝนเรียนสายวิทย์-คณิตมาก่อน พื้นฐานภาษาญี่ปุ่นเป็นศูนย์ คือไม่มีพื้นฐานเลย มาเริ่มนับหนึ่งใหม่ที่ญี่ปุ่นค่ะ เริ่มจากฝึกเขียน อ่าน และเรียนด้วยตัวเองกับพี่สาวที่บ้านก่อน 2 คน ตั้งแต่ a i u e o ส่วนที่โรงเรียนก็ได้ฝึกเขียนเรียงความ เขียนอะไรก็ได้ เป็นการฝึกกลั่นกรองความคิด และก็มีโอกาสไปเจอคนญี่ปุ่นที่เป็นอาสาสมัครสอนภาษา เลยได้ฝึกทักษะการพูดมากขึ้นไปอีก พอผ่านไป 3 เดือน รู้สึกว่าตัวเองสามารถพูดสื่อสารได้มากขึ้นเลยค่ะ

แสดงว่าตอนนี้พูดได้ 4 ภาษา ทั้ง ภาษาไทย อังกฤษ ญี่ปุ่น และจีน ?

        ก็สามารถสื่อสารได้ค่ะ  ภาษาจีนจะได้ในระดับสื่อสารทั่วไป เพราะที่บ้านก็พูดภาษาจีน เห็นตัวอักษรจีนผ่านๆ บ้าง จะได้การพูดคุยในชีวิตประจำวันมากกว่าค่ะ ส่วนภาษาอังกฤษก็อยู่ในระดับสื่อสารได้ แต่ก็ไม่คล่องเท่าภาษาญี่ปุ่นค่ะ

ทำไมถึงมาเรียนที่ TNI ?

        ฝนอยากจะต่อยอดทักษะภาษาญี่ปุ่นของตัวเอง พี่สาวเลยแนะนำ TNI ค่ะ เพราะเห็นว่า TNI โดดเด่นด้านภาษาญี่ปุ่น และอาจารย์ค่อนข้างเอาดูแลใจใส่นักศึกษาเป็นพิเศษ ทำให้ฝนเกิดความสนใจ เริ่มหาข้อมูลเกี่ยวกับ TNI และให้พี่ชายซึ่งอยู่เมืองไทยเป็นผู้ติดต่อให้ค่ะ

เรียนที่ TNI เป็นยังไงบ้าง ?

                                       

        ได้ต่อยอดทักษะภาษาญี่ปุ่นของตัวเองตามที่ตั้งใจไว้ค่ะ เช่น การใช้ภาษาญี่ปุ่นให้เหมาะกับแต่ละบุคคล วิธีการพูดกับเพื่อนร่วมงาน
เจ้านาย วิธีพูดที่เหมาะสมในการนำเสนอความคิดและผลงาน และก็ยังได้เรียนรู้ประสบการณ์ตรงในโลกธุรกิจ จากการทำโครงการ Junior Entrepreneur ด้วยค่ะ

        ตลอดระยะเวลาที่เรียนที่ TNI ฝนรู้สึกอบอุ่นมากๆ ค่ะ เพราะได้รู้จักเพื่อนๆ ที่น่ารักทั้งในและนอกคณะจากการได้ทำกิจกรรมต่างๆ ใน TNI ร่วมกัน รวมไปถึงอาจารย์ เพราะฝนมีโอกาสไปแข่งขันกิจกรรมที่เกี่ยวกับญี่ปุ่นค่อนข้างบ่อย ทำให้ค่อนข้างสนิทกับอาจารย์ญี่ปุ่นเป็นพิเศษ แต่ก็รู้สึกประทับใจในอาจารย์ท่านอื่นๆ ด้วยค่ะ ถึงแม้จะไม่ได้สนิทกันเป็นพิเศษ แต่ว่าอาจารย์ก็ยังคอยให้คำแนะนำ
ช่วยเหลือตลอด เช่น ให้คำแนะนำตอนฝึกงาน ซึ่งทำให้ฝนรู้สึกประทับใจและอบอุ่นมากๆ ตลอดระยะเวลาที่เรียนที่นี่ค่ะ

ได้ข่าวมาว่าเป็นเจ้าแม่ Part-time

                                                                              

        ก็ไม่ถึงขนาดนั้นค่ะ  ฝนแค่คิดว่า “การได้ลองทำงานหลายๆ งาน น่าจะเป็นเรื่องที่ดี เพราะจะได้รู้ตัวเองเร็วขึ้นว่าชอบงานแบบไหน” อย่างฝนมีโอกาสทำงาน Part-time ในช่วง Summer ที่ญี่ปุ่น ทำงานแรกเลยที่ Lawson งานหนักมาก แต่ก็ภูมิใจมากเลยค่ะ ทำตั้งแต่ล้างห้องน้ำ คีย์ข้อมูล ทุกอย่างต้องเป๊ะ หัวหน้าดุมาก เหมือนได้เรียนรู้ด้วยว่า คนที่นี่ทำได้ คุณมาอยู่ที่นี่ก็ต้องทำให้ได้ งานนี้ทำให้ฝนเข้มแข็งขึ้นมากเลยค่ะ  และก็มีอีกงานที่มีโอกาสได้ทำ คือ งานตัดด้าย งานนี้ไปทำกับพี่สาวค่ะ นอกจากจะได้ค่าขนมแล้ว ยังได้รู้จักคนญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นด้วย ที่สำคัญคือหัวหน้าใจดีมาก ไม่ดุเหมือนงานก่อนหน้าแล้ว

        ระหว่างเรียนที่ TNI ฝนก็มีโอกาสได้ทำงาน Part-time ไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นเด็กเสิร์ฟ รับสอนภาษาญี่ปุ่น และงานล่ามด้วยค่ะ       เมื่อเทียบกันแล้วระหว่างงานที่ไทยกับญี่ปุ่น ฝนขอบอกเลยว่าต่างกันมากค่ะ ที่ญี่ปุ่นจะจริงจังมาก เวลาทำงานคือทำงาน ไม่คุยเล่นกัน ค่อนข้างกดดันกว่าที่ไทยพอสมควรเลยค่ะ

        ตอนแรกฝนก็มีความรู้สึกนอยด์บ้างค่ะ ว่าทำไมต้องทำงาน แต่พอมองและคิดดูแล้วก็รู้สึกว่า ตัวเองมีโอกาสเยอะกว่าคนอื่น  ทำให้เปลี่ยนความคิดไปเลยค่ะว่า “จะต้องอยู่ให้ได้ด้วยตัวเองและรับผิดชอบตัวเองให้ได้ค่ะ”